วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"ยาลดความอ้วน"สารอันตราย



พิษภัย'ยาลดความอ้วน' นั้นยังมีให้เห็นต่อเนื่องในสังคมไทยเช่น โศกนาฏกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นกับน.ส.โชติมา จินตนาผลอายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนวัดราชาธิวาส ซึ่งสั่งซื้อยาลดความอ้วนPAODY Slim Capsule กับ L-Carnitine Plus มารับประทานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ความจริงจะเรียกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ว่า 'ยา' คงไม่ได้

เพราะควรเรียกว่า 'สารลดความอ้วนซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ' จะตรงประเด็นกว่า น่าวิตกที่ภายหลังจากข่าวการเสียชีวิตของน.ส.โชติมา เผยแพร่ไปทั่วประเทศ แต่สารลดความอ้วนทั้งสองชนิด ก็ยังขายโจ่งแจ้งในอินเตอร์เน็ตนับหมื่นเว็บไซต์

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลไว้ว่า ตามปกติแพทย์จะสั่งจ่ายยาลดความอ้วนในกรณีผู้ป่วยเป็น'โรคอ้วน'พร้อมกับติดตามผลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากยาลดความอ้วนอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายถึงขั้นเสียชีวิต

วิธีการลดความอ้วนไม่ใช่แค่พึ่งยาอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน

นอกจากนั้น สารประกอบในยาลดความอ้วนยังเพิ่มความเสี่ยงส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือด เบาหวาน ความดัน อาการทรุดหนักลงได้
ที่สำคัญ เด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี หรือสตรีมีครรภ์ ห้ามใช้ยาดังกล่าวโดยเด็ดขาด
โดยทั่วไปยาลดน้ำหนักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ แยกตามตำแหน่งการออกฤทธิ์ของยา คือ

-ยากลุ่มออกฤทธิ์ที่สมอง ส่งผลต่อศูนย์ควบคุมการรับประทานอาหาร โดยไปกดไว้จนไม่อยากอาหาร

-ยาออกฤทธิ์ต่อส่วนนอกสมอง ทำให้ระบบลำไส้ยับยั้งการดูดซึมของสารอาหารอาการผิดปกติที่พบบ่อย หลังจากทานสารลดความอ้วนเข้าไปอาทิ

กระวนกระวาย ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ ท้องผูก ไปจนถึงตื่นเต้นเกินเหตุ ม่านตาขยาย ประสาทหลอน

เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเกิดอาการ'เสพติด' ในบางกรณีที่อาการร้ายแรงจะเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน ระบบการไหลเวียนของเลือดล้มเหลว ชัก โคม่า และเสียชีวิตในที่สุด